ศึกษาข้อมูลก่อนจัดฟันดัดฟัน

จัดฟันดัดฟัน

ต้นเหตุมันมาจากการทนไม่ไหว หลังจากโดนเพื่อนๆและคนรู้จักแซวว่า “เอ้ย…เอ็งอ่ะดูดีหมดละ เสียอย่างเดียวฟันเหยิน” , “อย่าเข้าใกล้มัน…เดี๋ยวฟันเฉาะหน้า” , “ยืมฟันหน้ามาเปิดขวดหน่อยเด๊ะ” (-_-“)  นั่นจึงกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผมตัดสินใจ จัดฟัน ซึ่งนอกจากทำให้ฟันเราเข้ารูปแล้วผลพลอยได้ของมันก็คือ

  • ใบหน้าที่เรียวขึ้น ( แน่ล่ะถอนฟันออกไปตั้งหลายซี่นี่นา )
  • สุขภาพช่องปากที่ดีขึ้น ( เพราะต้องแปรงฟันบ่อย+แคะเศษอาหารตามเหล็กและร่องฟัน )
  • น้ำหนักที่ลดลง ( อันนี้ขึ้นอยู่กับการกินของแต่ละคน บางคนทานข้าวไม่ค่อยได้ ทานขนมมันซะเลย แบบนี้อ้วนขึ้นแน่ๆ 555 )
  • เป็นแฟชั่นอย่างนึง ( เพราะต้องเปลี่ยนยางทุกเดือน เลือกสีสวยๆได้ อย่าเลือกสีเขียวครับ มันเหมือนผักติดฟันตลอดเวลา -*- )

ตอนแรกก็ยังลังเลเพราะอายุก็ไม่ใช่น้อยๆ (29ปีละค๊าบ) คนอื่นเค้า จัดฟันดัดฟัน กันตั้งแต่ ม.ต้น-ม.ปลาย ผมมาจัดฟันตอนนี้จะดีเหรอ โชคดีที่เรามีเพื่อนคนนึง เค้าเองก็เพิ่งจัดฟัน แถมอายุมากกว่าซะอีก เอาน่ะอายุไม่ใช่ปัญหา

ทีนี้ก็ต้องมาศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน เพราะ จัดฟันดัดฟัน ต้องใช้เวลา+จำนวนเงิน ที่มากพอสมควร ต้องวางแผนการใช้ชีวิตและการเงินให้ดี แต่สำหรับหลายๆคนที่ฐานะทางบ้านดีหน่อย ก็คงไม่ต้องกังวลมากในการจัดฟัน ผมเองก็ดูข้อมูลการจัดฟันดัดฟันจากในอินเตอร์เน็ต บวกกับคำแนะนำจากหลายๆคนที่จัดฟันไปแล้ว บางคนก็แนะนำคลีนิกให้ บางคนก็มาเล่าให้เรากลัว แต่สำคัญที่สุดคือตัวเรา ว่าพร้อมแค่ไหนสำหรับการจัดฟัน

จัดฟันดัดฟัน

การจัดฟันหลักๆแล้วเราควรดูข้อมูลอยู่ 3 อย่างเป็นหลักๆ
1.เลือกจัดฟันที่ร้านไหน?
– ปัจจุบันเราสามารถเลือก จัดฟัน ได้หลายแห่งทั้งโรงพยาบาล ทั้งคลีนิกจัดฟัน (ไม่นับพวก จัดฟันดัดฟัน แฟชั่นนะครับ อันตราย) ซึ่งแต่ละที่ก็จะแตกต่างกัน ควรจะเลือกร้านที่ใกล้บ้านหรือเดินทางสะดวก เพราะการจัดฟันจะต้องไปหาคุณหมอทุกเดือน แถมถ้าเกินพลาดไปทานอะไรแข็งๆ แล้วเครื่องมือหลุด ก็จะต้องไปให้คุณหมอติดให้ใหม่ รวมถึงความสะอาดและสภาพของสถานที่ก็ต้องดูให้ดี อย่าเชื่อแค่ภาพในเน็ต(มันรีทัชได้ ผมยืนยัน) ไปดูด้วยตัวเองดีกว่าครับ

2.คุณหมอเฉพาะทางหรือไม่? เข้ามาทำงานวันไหนบ้าง?
– จากข้อมูลหลายๆเว็บไซต์ แนะนำให้ดูชื่อคุณหมอ แล้วมาเทียบว่าเป็นแพทย์จัดฟันโดยเฉพาะหรือเปล่า ซึ่งมีเว็บที่รวมรายชื่อทันตแพทย์จัดฟัน ไว้ให้เราดูได้เลย ( http://www.thaiortho.org/?page_id=140 ) จริงๆแล้วผมเองก็ไม่ได้เช็คถึงขนาดนั้น ดูที่ร้านไหนน่าเชื่อถือมากกว่า แต่สิ่งที่สำคัญคือเราต้องดูว่าคุณหมอเข้ามาทำงานวันไหน เพราะส่วนมากแล้วจะเข้าไม่กี่ครั้งต่อเดือน ดังนั้นต้องดูด้วยว่าเราสะดวกไปตามนัดคุณหมอหรือเปล่า

3.ความพร้อมของตัวเรา
– เพราะการจัดฟันจะต้องแลกด้วยความลำบากอีกหลายอย่างที่จะตามมา ไม่ว่าจะเรื่องการกิน ที่กินอะไรได้ลำบากขึ้น แถมหลังอาหารก็ต้องแปรงฟันหรือเอาเศษอาหารออกจากเหล็กอีก หรือว่าจะเป็นเรื่องแผลภายในช่องปาก ที่เกิดจากผนังภายในปากไปขูดกับเหล็ก และสุดท้ายคือเรื่องเงิน เพราะจากข้อมูลค่าใช้จ่ายที่ระบุในเว็บไซต์ของแต่ละร้านแล้ว ยังจะมีค่าเคลียร์ช่องปากอีก ซึ่งแต่ละคนก็จะมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพช่องปากของตัวเอง แต่ที่แน่ๆบวกเพิ่มไปได้เลยไม่ตำกว่า 5,000+ บาท แน่นอน ยิ่งถ้ามีฟันคุดแล้วด้วยอาจจะต้องผ่าออกซึ่งแพงทีเดียว แถมค่าใช้จ่ายในการจัดฟันไม่สามารถรูดบัตรเครดิตได้นะครับ ผมเองก็เพิ่งรู้ตอนไปจ่ายเงิน แต่ดีที่เตรียมเงินสดไว้บ้าง ดังนั้นขั้นต่ำควรมีเงินในการเคลียร์ช่องปากเตรียมไว้เลย 10,000 บาท (อุดฟัน+ขูดหินปูน+ถอนฟัน) และยังต้องเตรียมเงินสำหรับจ่ายคุณหมอทุกเดือน(ขึ้นอยู่กับแต่ละที่ บางที่จ่ายเท่ากันตลอด 2 ปี บางที่จ่ายหนักช่วง 3 เดือนแรก ) สุดท้ายคือค่ารีเทนเนอร์ ซึ่งมักจะไม่รวมอยู่ในค่าจัดฟันอีกประมาณ 4,000 บาท

คราวหน้าเราจะมาเริ่มต้นที่การเลือกสถานที่ จัดฟันดัดฟัน กันนะครับ

ปล.ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะค๊าบ

Tag : จัดฟัน