หลังจากที่ได้ติดเครื่องมือ จัดฟันดัดฟัน เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อดึงฟันนิดหน่อยและ เพื่อให้ปรับสภาพช่องปากของเราให้คุ้นเคยกับเครื่องมือ ก็ถึงเวลาที่ผมจะต้องไปพบคุณหมออีกครั้ง
ตอนไปถึงก็ลุ้นๆอยู่ว่าวันนี้คุณหมอจะทำอะไร ระหว่างติดเครื่องมือ จัดฟัน ที่ฟันล่างหรือถอนฟัน 4 ซี่ ถ้าเป็นการติดเครื่องมือที่ฟันล่าง ก็คงไม่เท่าไหร่เพราะคงไม่ต่างจากเครื่องมือ จัดฟันดัดฟัน ที่ฟันบน แต่ถ้าเป็นการถอนฟันจะทำยังไงดี เพราะต้องไปธุระต่อหลังจากมาพบคุณหมอ
พอเข้าไปเจอคุณหมอก็เช็คเครื่องมือ จัดฟันดัดฟัน ที่ฟันบนก่อนว่ามีปัญหาหรือไม่ หลังจากนั้นก็บอกผมว่า วันนี้จะปรับเครื่องมือ จัดฟันดัดฟัน และส่งถอนฟันแล้วนะ อ่อ…โอเค ไปทำธุระต่อได้อยู่ ซึ่งในวันนี้ก็เป็นการตัดลวด โดยเว้นช่องตรงฟันที่เราจะต้องถอน เพื่อให้คุณหมอ ถอนฟันได้สะดวก เดือนนี้ก็ได้เลือกสียางอีกครั้ง คราวนี้ขอสีส้มเลย เด่นมากๆ ก่อนกลับก็ทำการนัดวันเข้ามาถอนฟัน จากที่ฟังๆมา เพื่อนแต่ละคนก็แนะนำว่าควรจะถอนทีละ 2 ซี่ (ซีกซ้ายหรือซีกขวา) เพราะจะไม่ทรมานมากและยังพอกินอาหารได้ ก็เลยนัดวันมาถอนฟันโดยเว้นช่วงห่างกัน 1 อาทิตย์เพื่อให้ซีกที่ถอนไปก่อน หายดีพอจะเคี้ยวอาหารได้
ตื่นเต้นพอสมควร จำไม่ได้แล้วว่าตอนเด็กๆถอนฟันเจ็บมากมั้ย พอมาถึงก็เจอคุณหมอฟันเตรียมเครื่องมือรอแล้ว(เตรียมพร้อมเกินไปมั้ยค๊าบ) แต่ดันหาฟิล์มที่ X-ray ฟันของผมไม่เจอ (แอบได้ยินเจ้าหน้าที่คุยกัน) โชคดีที่ฟันที่จะถอนอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน คุณหมอฟันก็เลยบอก ไม่เป็นไรถอนตามตำแหน่งนี่แหล่ะ ผมเองก็งง เว้นไว้ให้แล้วนี่นา จะไปถอนซี่อื่นได้ไง -*- คุณหมอก็ถามว่าจะถอนข้างไหนก่อน ผมเลือกข้างซ้ายก่อน เพราะว่ามี ฟันเก อยู่ 1 ซี่ ผมว่ามันน่าจะถอนยาก เริ่มต้นด้วยการฉีดยาชา โดยคุณหมอจะเอายาชาแบบป้าย มาทาๆไว้ที่เหงือกของเราก่อน ตอนเอาเข็มฉีดยาชาจะได้ไม่เจ็บมาก แต่…..เจ็บครับ โดนไป 2 เข็มที่เหงือกบน จากนั้นก็อีก 2 ที่เหงือกล่าง คุณหมอบอกว่าจะถอนฟันบนก่อน กว่าจะถอนเสร็จเหงือกล่างก็จะชาแล้ว
ได้ผลครับ ชามากเลย เหมือนแก้มเราตุ่ยๆ ดึงๆ ความรู้สึกตอนที่คุณหมอถอนฟันก็คล้ายๆฟันโยกนิดหน่อย ตอนฟันบนหลุดยังไม่รู้ตัวเลย คุณหมอบอกว่าเสร็จแล้วนะต่อไปก็ฟันล่าง แล้วก็มาเช็คว่าเหงือกล่างชารึยัง ซึ่งตอนนี้ตุ่ยๆมากแล้ว ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกว่ามันชามากกว่าเหงือกบน หรือเพราะว่าทิ้งไว้นาน
แล้วงานก็เข้าจริงๆด้วย คุณหมอบ่นทันที “ใช้คีมดึงไม่ได้เลย เอาเบอร์เล็กกว่านี้มาให้หน่อยค่ะ” คีมเล็กที่สุดในคลีนิกก็ยังดึงไม่ได้เลย เพราะฟันซี่ล่างมันเกมากครับ ฟัน 2 ซี่ข้างๆมันบีบเข้ามาจนคีมแทรกลงไปไม่ได้ ถ้าหมอให้คีบบีบลงไปเลย จะทำให้ฟัน 2 ซี่ข้างๆแตกได้ คุณหมอก็ลองแล้วหลายๆมุมก็ยังคีบไม่ได้ ซวยแล้ว…แล้วหมอจะทำยังไงเนี่ย “อืม…คีบไม่ได้แฮะ เอางี้ละกันผ่าแยกฟันก่อน” ยังไม่ทันขาดคำคุณหมอก็เพิ่มยาชาอีกเข็มเพราะเจ็บแน่ๆ จากนั้นคุณหมอก็ค่อยๆเจียแบ่งฟัน ผลัดกับดึงฟันส่วนที่พอจะดึงออกได้ ทำได้ไปสักพักอาการเจ็บก็กลับมา ผมว่ายาชามันยังไม่หมดฤทธิ์แต่เพราะคงไปโดนเส้นประสาท ก็เลยเจ็บขึ้นมา ยกมือบอกหมอว่าเจ็บ (หมอบอกว่าถ้าเจ็บให้ยกมือ อย่าส่ายหน้าเดี๋ยวโดนเครื่องมือ) หมอก็เลยเติมยาชาอีก 2 เข็ม คราวนี้ชาไปครึ่งหน้าแล้ว คุณหมอก็ทำต่อ และแล้วก็มาถึงส่วนสุดท้าย แต่อาการเจ็บก็กลับมาอีกเช่นกัน คุณหมอบอกว่าฉีดธรรมดาไม่ได้แล้ว เอางี้ละกันฉีดลงกลางฟันเลย -*- ความรู้สึกสุดจะบรรยาย เข็มยาชาค่อยๆแทงลงกลางฟัน น้ำตาจาไหล แต่ก็ได้ผลครับ คราวนี้ชาสนิทเลย คุณหมอก็ถอนฟันต่อจนเสร็จ เฮ้อ…เสร็จซะที รวมเวลาแล้วประมาณ 1 ชม. ครึ่ง
คุณหมอก็ให้กัดผ้าก็อตไว้ 2 ชม. เพื่อห้ามเลือด กัดแน่นๆและห้ามบ้วนน้ำลาย กลืนเข้าไปเลยทั้งเลือดทั้งน้ำลาย แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ผ้าก็อตมัน อยู่ที่ยาชาต่างหาก เพราะยาชายังไม่หมดฤทธิ์บริเวณปากเราจะรู้สึกบวมๆ ตึงๆ ควบคุมไม่ค่อยได้ ลองส่งกระจกดูถึงกับตกใจเพราะปากเบี้ยว พยายามฝืนให้มันตรงก็ลำบาก แย่แล้วจะออกไปยังไงเนี่ยเดินปากเบี้ยวอายคนอื่นแย่ นั่งคิดอยู่ที่คลีนิกพักนึงก็ได้ทางออก คุณหมอสั่งให้ไปซื้อยา เลยถือโอกาสนี้ซื้อผ้าปิดปากด้วย เอาวะ…แกล้งป่วยดีกว่าให้เค้าเห็นปากเบี้ยว
สรุปเลือดหยุดไหลตอนเวลา 20.05 น. ถึงจะกินข้าวได้ โดยอาการมื้อแรกหลังจากถอนฟันคือโจ้กนั้นเอง แล้วยังต้องเอียงหัวกินด้วย กลัวโจ้กไปโดนฟันที่ถอนแล้วเลือดไหลอีก ในตอนต่อไปของขั้นตอนการ จัดฟันดัดฟัน เราจะมาดูผลของการถอนฟันครั้งแรกและการไปถอนฟันครั้งที่สองของผมกันครับ